
การเปิดร้านกาแฟเป็นความฝันของใครหลายๆ คนในยุคที่กาแฟกลายเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมและมีตลาดให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่สำหรับผู้ประกอบการ เจ้าของร้านมือใหม่ที่คิดจะก้าวเข้าสู่ธุรกิจนี้ การเตรียมความพร้อมอย่างรอบด้านเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ร้านของเราสามารถอยู่รอดและประสบความสำเร็จต่อไปได้
ในบทความนี้ Oceantableware จะมาแนะนำ 7 เรื่องสำคัญที่ผู้ประกอบการและเจ้าของร้านควรต้องทราบก่อนคิดจะเปิดร้านกาแฟ ไม่ว่าคุณคิดจะอยากเปิดร้านขายน้ำ เล็กๆ ในชุมชนหน้าบ้าน การเปิดคาเฟ่ลงทุนเท่าไหร่ หรือเปิดเป็นร้านกาแฟจริงจัง พร้อมต่อยอดธุรกิจร้านกาแฟของคุณราบรื่นและประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้นในอนาคต
7 เรื่องที่เจ้าของร้านมือใหม่ต้องรู้ ก่อนเปิดร้านกาแฟ
1. เลือกประเภทของร้านกาแฟที่จะขาย
การเปิดร้านกาแฟในปัจจุบันเองมีร้านกาแฟหลากหลายรูปแบบให้เลือกตามขนาดและรูปแบบของกาแฟเหมาะกับงบประมาณและเป้าหมายที่แตกต่างกัน รวมถึงข้อดี ข้อเสียต่างๆ ของการเปิดร้านกาแฟแต่ละชนิด โดยประเภทร้านที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน ได้แก่
1.1 ร้านกาแฟแบบ Coffee Kiosk: ร้านกาแฟขนาดเล็กประมาณตู้เคาน์เตอร์ เน้นทำเมนูที่ซื้อง่าย ขายไว มีเมนูกาแฟและเครื่องดื่มทั่วไป หากมีงบ 20,000 แบบร้านกาแฟ เล็กๆ หน้าบ้านก็สามารถทำได้
1.2 ร้านกาแฟแบบ Full Service: ร้านกาแฟขนาดใหญ่ มีพื้นที่ให้นั่ง และมีเมนูที่หลากหลายทั้งกาแฟ เครื่องดื่ม ขนม และอาหาร เหมาะสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการร้านกาแฟที่มีพื้นที่ของตนเองในการตกแต่งและรับลูกค้า
1.3 ร้านกาแฟแบบ Specialty Coffee: ร้านกาแฟที่เชี่ยวชาญเรื่องกาแฟเป็นพิเศษ ตั้งแต่การคัดสรรเมล็ดกาแฟคุณภาพ ไปจนถึงกรรมวิธีการชงต่างๆ เพื่อให้ได้กาแฟที่ดีและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ เหมาะสำหรับการเจาะกลุ่มลูกค้าที่เป็นคนรักกาแฟ
1.4 ร้านกาแฟแบบ Coffee Mixologist: ร้านกาแฟที่เป็นเหมือนการต่อยอดของร้านประเภท Specialty Coffee โดยจะเน้นการนำเสนอเทคนิคและเครื่องที่แปลกใหม่กว่าร้านกาแฟทั่วไป รังสรรค์กาแฟออกมาด้วยความคิดสร้างสรรค์ เป็นร้านที่เจาะกลุ่มฐานลูกค้าเฉพาะทาง รวมถึงใช้งบประมาณและความรู้ด้านกาแฟที่ค่อนข้างสูง
โดยการเลือกประเภทที่จะเปิดร้านกาแฟนั้น นอกจากเงินทุนและความสนใจแล้วยังมีปัจจัยอื่นๆ อย่างเช่น ฐานลูกค้า ที่ Specialty Coffee และ Coffee Mixologist จะมีความเฉพาะทางกว่า และยังแปรผันไปถึงรูปแบบเมนู การให้บริการ และการเลือกทำเลต่างๆ ด้วย
2. กำหนดเป้าหมายของร้าน และเงินทุนในการเปิดร้านกาแฟ
การวางแผนเปิดร้านกาแฟที่ดี ต้องเริ่มจากการกำหนดเป้าหมายให้ชัดเจน ว่าต้องการให้ร้านกาแฟของเราเป็นอย่างไร มุ่งเน้นไปที่กลุ่มลูกค้าไหน และคาดหวังผลตอบแทนในระดับใด โดยทั่วไปแล้ว การเปิดร้านกาแฟขนาดเล็กถึงกลางจะใช้งบประมาณตั้งแต่หลักหมื่นบาท ไปจนถึงหลักล้านเลยก็ได้ โดยการคำนวณเงินทุนควรแบ่งออกเป็นเงินลงทุนเริ่มต้น ประกอบไปด้วยค่าตกแต่งร้าน ค่าเฟอร์นิเจอร์ ค่าอุปกรณ์ เครื่องชงกาแฟต่างๆ และเงินทุนหมุนเวียนสำหรับวัตถุดิบ ค่าเช่า ค่าจ้างพนักงาน ซึ่งควรมีสำรองไว้อย่างน้อย 3-6 เดือน เพื่อรองรับช่วงเริ่มต้นที่ยอดขายอาจยังไม่คงที่มากนัก
3. มองหาฐานลูกค้าและทำเลที่เหมาะสม
การเลือกทำเล ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อความสำเร็จของร้านกาแฟและร้านอาหารทั่วไป สำหรับผู้ที่เปิดร้านขายน้ำต้องเตรียมอะไรบ้างในเรื่องของทำเลมีเรื่องให้พิจารณา ดังนี้
พิจารณาว่ากลุ่มเป้าหมายของตนคือใคร เช่น เลือกทำเลเปิดร้านกาแฟใกล้สถานศึกษา น่าจะเหมาะกับนักเรียน นักศึกษา ที่ชอบนั่งทำงานเป็นกลุ่มและต้องการ Wi-Fi ฟรี หรือย่านออฟฟิศจะเน้นลูกค้าที่ต้องการความรวดเร็ว อาจจะต้องมีบริการเดลิเวอรี่ สั่งล่วงหน้า และเน้นเครื่องดื่มที่ชงได้เร็วและง่าย
เลือกทำเลที่เข้าถึงง่าย ควรเลือกทำเลเปิดร้านกาแฟที่มองเห็นได้ง่าย เป็นจุดสังเกต หากมีบริการเดลิเวอรี่ ควรมีที่จอดรถให้พนักงานส่งของ
สำรวจคู่แข่งในพื้นที่ เก็บข้อมูลว่าทำเลที่เราสนใจ มีร้านกาแฟเปิดอยู่เท่าไร เป็นร้านประเภทไหนบ้าง เพื่อมองหาช่องว่างที่จะทำให้ร้านของเราแทรกตัวเข้าไปและโดดเด่นได้
4. เตรียมเมนูเด็ดของร้านและความรู้ให้พร้อม
การเปิดร้านกาแฟที่ประสบความสำเร็จจะขาดเมนูเด็ดๆ ไปได้อย่างไร ร้านกาแฟที่ดีต้องมีเมนูที่หลากหลายและมีจุดเด่นเป็นของตนเอง นอกจากเมนูกาแฟพื้นฐานอย่างเอสเปรสโซ (Espresso) อเมริกาโน (Americano), คาปูชิโน (Cappuccino) และลาเต้ (Latte) แล้ว ควรพัฒนาเมนู Signature ที่เป็นเอกลักษณ์ของร้าน เช่น การผสมผสานรสชาติวัตถุดิบท้องถิ่น หรือการนำเสนอในรูปแบบที่แปลกใหม่ เช่น โกโก้ที่รสชาติเข้มข้ม หรือกาแฟที่มีท๊อปปิ้งเป็นสายไหมบนแก้วกาแฟ ช่วยสร้างความโดดเด่นให้ร้านเป็นที่พูดถึงเช่นกัน
ความรู้เกี่ยวกับกาแฟเองเป็นสิ่งจำเป็น ตั้งแต่การเลือกเมล็ดกาแฟ วิธีคั่ว กระบวนการชง รสชาติ ไปจนถึงการให้คำแนะนำแก่ลูกค้าจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นและประทับใจให้กับลูกค้าได้ไม่น้อย
5. เตรียมอุปกรณ์และวัตถุดิบต่างๆ ในการชงเครื่องดื่ม
อุปกรณ์เปิดร้านกาแฟเล็กๆ ที่จำเป็น มักประกอบด้วยเครื่องชงกาแฟ เครื่องบดเมล็ดกาแฟ เครื่องปั่นน้ำ ตู้แช่ และเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ ตามเมนูที่วางแผนไว้ สำหรับภาชนะเสิร์ฟเครื่องดื่ม ควรเตรียมแก้วกาแฟ แก้วน้ำ แก้วชา และหากมีเมนูเครื่องดื่มพิเศษ อาจจะต้องมีแก้วค็อกเทล แก้วไวน์ หรือแก้วเบียร์ไว้ตามความเหมาะสม
การจัดซื้อชุดแก้วหรือชุดเครื่องแก้วแบบครบชุดจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและได้แก้วที่มีดีไซน์เข้ากันทุกใบ นอกจากนี้ ยังต้องเตรียมโหลแก้วสำรองสำหรับใส่เมล็ดกาแฟ หม้อสำหรับต้มน้ำและวัตถุดิบต่างๆ และถาดสำหรับเสิร์ฟเครื่องดื่ม เพื่อให้การบริการเป็นไปอย่างราบรื่น และสะดวกที่สุด
และสุดท้าย คือ วัตถุดิบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเมล็ดกาแฟ ที่ต้องเลือกเป็นพิเศษ เพราะเมล็ดกาแฟต่างสายพันธ์ ต่างที่มา และการคั่วที่ต่างกันจะให้รสชาติที่ต่างกันด้วย หากเป็นร้านประเภท Coffee Kiosk และ Full Service อาจไม่จำเป็นต้องมีเมล็ดกาแฟหลากหลายนัก แต่สำหรับร้าน Coffee Mixologist และ Specialty Coffee จะต้องมีตัวเลือกที่หลากหลาย รวมถึงวัตถุดิบอื่นๆ เช่น ชา โกโก้ นม และน้ำ เป็นต้น
6. รู้จักการโปรโมตร้านให้เป็นที่รู้จัก
การทำการตลาดที่ดีช่วยให้ร้านเป็นที่รู้จักมากขึ้น และการเปิดร้านกาแฟในยุคปัจจุบันให้ประสบความสำเร็จ จำเป็นต้องใช้ช่องทางออนไลน์ควบคู่ไปกับการตลาดแบบดั้งเดิม การสร้างตัวตนบนโซเชียลมีเดียอย่าง Facebook, Instagram, TikTok จะช่วยเข้าถึงลูกค้าได้อย่างทั่วถึง ทั้งการแชร์คอนเทนต์ แนะนำเมนูต่างๆ ในร้าน และการสื่อสาร พูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลกับลูกค้า
นอกจากนี้ การจัดโปรโมชั่นเปิดร้าน การทำคูปองส่วนลดหน้าร้านหรือในแพลตฟอร์มเดลิเวอรี่ และการสร้างกิจกรรมพิเศษในช่วงเวลาสำคัญต่างๆ เป็นวิธีที่จะช่วยดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาในร้านมากขึ้น และทำให้ร้านเป็นที่พูดถึง ทั้งในทำเลโดยรอบและในโซเชียลมีเดีย
7. คำนวนจุดคุ้มทุนให้ดี
จุดคุ้มทุนเป็นเป้าหมายขั้นต่ำที่ร้านต้องทำยอดขายให้ได้ในแต่ละเดือนเพื่อให้รายได้เพียงพอกับรายจ่ายและได้กำไร การคำนวณจุดคุ้มทุนจะช่วยให้ผู้ประกอบการทราบว่าจะต้องขายกาแฟหรือเครื่องดื่มกี่แก้วต่อวันจึงจะไม่ขาดทุน และสามารถประเมินระยะเวลาคืนทุนได้อย่างแม่นยำมากขึ้น
- สูตรการคำนวนจุดคุ้มทุน (ต่อเดือน): ค่าใช้จ่ายรวมต่อเดือน ÷ กำไรต่อชิ้น
- ตัวอย่างการคำนวนจุดคุ้มทุน: หากค่าใช้จ่ายรวมต่อเดือนอยู่ที่ 225,000 บาท และกำไรต่อแก้วอยู่ที่ 25 บาท จะต้องขายอย่างน้อย 225,000 ÷ 25 = 9,000 แก้วต่อเดือน หรือประมาณ 300 แก้วต่อวัน เพื่อให้ถึงจุดคุ้มทุน
การเตรียมความพร้อมอย่างรอบด้านก่อนเปิดร้านกาแฟจะช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนทางการเงิน การเลือกทำเล การเตรียมอุปกรณ์ หรือการทำการตลาด ทุกอย่างล้วนมีความสำคัญและต้องได้รับการพิจารณาอย่างถี่ถ้วน และแน่นอนว่า หากคุณมีความรู้ และความพร้อมที่จะเปิดร้านกาแฟ ความสำเร็จจะอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม
เลือกซื้อแก้วหลากหลายประเภทจาก Oceantableware
Oceantableware คือ ผู้จัดจำหน่ายชุดเครื่องแก้ว แก้วชาและกาแฟ แก้วเบียร์ แก้วเหล้า หม้อและอุปกรณ์ครัวอื่นๆ ที่ได้มาตรฐาน จากแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ มีคุณภาพระดับเวิลด์คลาส เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร และจัดเลี้ยง รวมถึงบริษัทและองค์กรต่าง ๆ จากประสบการณ์กว่า 38 ปี เรามุ่งเน้นการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับประสบการณ์การรับประทานอาหารสู่ความทันสมัยอย่างมีสไตล์ ตอบโจทย์ทุกช่วงเวลาของความสุข ช่วยสร้างช่วงเวลาที่น่าจดจำ โอเชียนกลาสจึงเป็นผู้นำการจัดจำหน่ายมีด และเครื่องครัวอื่นๆ ของเอเชียและส่งออกไปมากกว่า 90 ประเทศทั่วโลก
สอบถามเกี่ยวกับเซตของขวัญได้ที่:
LINE: @oceanonline
โทร.: 062-390-0075
อีเมล: CS@oceanglass.com