
หม้อเป็นเครื่องครัวพื้นฐานที่ขาดไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารหรือในครัวเรือนทุกบ้าน การเลือกหม้อให้เหมาะกับการใช้งานจึงเป็นเรื่องสำคัญ สำหรับบางคน การเลือกหม้อที่ถูกใจ อาจจะมองแค่ขนาดอย่างเดียว แต่วิธีเลือกซื้อหม้อให้เจาะจง ทั้งขนาด รูปแบบ และวัสดุที่เหมาะกับการใช้งาน นอกจากจะช่วยให้อาหารของเราออกมาอร่อยน่ารับประทานแล้ว ยังช่วยให้หม้อนั้นคงทน อยู่คู่ครัวของเราไปได้อีกนานด้วย
ในบทความนี้ Oceantableware จะมาแนะนำวิธีเลือกซื้อหม้อใบใหม่แบบละเอียด ว่าจะต้องดูที่อะไร แล้วต้องเลือกหม้อแบบไหนจึงจะเหมาะกับการใช้งาน เพื่อให้คุณได้หม้อที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณมากที่สุด
วิธีเลือกซื้อหม้อ ต้องเลือกจากอะไรบ้าง
สำหรับวิธีเลือกซื้อหม้อแบบง่ายๆ นั้น สามารถพิจารณาได้จากหัวข้อข้อหลักๆ ดังนี้
- ขนาดของหม้อ: ขนาดของหม้อ ไม่เพียงแค่บ่งบอกถึงความจุ ว่าสามารถใส่อาหารได้มากขนาดไหน แต่ขนาดหม้อที่เหมาะสม จะทำให้การทำอาหารแต่ละเมนูนั้นสะดวกสบาย และเหมาะกับขนาดของครัวที่ใช้งานด้วย
- ประเภทหม้อที่เหมาะสม: จริงอยู่ว่า หม้อส่วนใหญ่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในการต้ม ตุ๋น นึ่งอาหารต่างๆ เป็นหลัก แต่หม้อในแต่ละรูปแบบนั้น อาจจะเหมาะกับการปรุงอาหารและวิธีใช้งานบางอย่างมากกว่าหม้ออีกประเภทก็ได้ เช่นบางหม้ออาจจะเหมาะกับการทำซอสโดยเฉพาะ บางหม้อเหมาะกับการตุ๋นเนื้อมากกว่า หรือออกแบบให้ใช้ในการทอดมากกว่าต้ม เป็นต้น
- วัสดุและการเคลือบหม้อ: วัสดุของหม้อที่เลือกใช้นั้น นอกจากจะต้องมีความทนทานแล้ว วัสดุบางชนิด อาจจะนำความร้อนได้ดี หรือมีลักษณะบางอย่างที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วย
- ประเภทเตาที่เหมาะสมกับหม้อ: หม้อแต่ละใบนั้น อาจจะไม่สามารถใช้งานกับเตาบางประเภทได้ เพราะฉะนั้น วิธีเลือกซื้อหม้อที่เหมาะสม ควรที่จะเลือกจากการใช้งานร่วมการเตาที่มีด้วย
วิธีเลือกซื้อหม้อที่เหมาะสม ต้องเลือกขนาดเท่าไหร่
การเลือกขนาดหม้อ ถือว่าเป็นปัจจัยแรกๆ ที่ควรพิจารณาจากวิธีเลือกซื้อหม้อ โดยขนาดต่างๆ นั้นจะเหมาะกับการใช้งานดังนี้
- หม้อขนาด 16 ซม.: เป็นหม้อที่มีขนาดเล็กที่สุด ที่สามารถหาซื้อได้ในตลาด ความจุประมาณ 1.5 ลิตร เหมาะสำหรับการทำอาหารจานเดียว เช่น การต้มน้ำซุป อุ่นกับข้าว หรือต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
- หม้อขนาด 18-20 ซม.: เป็นหม้อที่ขนาดใหญ่ขึ้นมาเล็กน้อย ความจุประมาณ 2 ลิตร เหมาะสำหรับการทำอาหารสำหรับ 2-3 คน
- หม้อขนาด 22-26 ซม.: เป็นหม้อขนาดกลาง เป็นขนาดมาตรฐานที่ควรมีติดบ้าน ความจุประมาณ 3-6 ลิตร เหมาะสำหรับการทำอาหารสำหรับครอบครัวขนาด 3-6 คน
- หม้อขนาด 28-32 ซม.: เป็นหม้อขนาดใหญ่สำหรับการทำอาหารในครอบครัว และเป็นขนาดที่เหมาะสำหรับการเริ่มทำอาหารขาย เหมาะสำหรับการทำอาหารจำนวนมาก และการต้มเนื้อไก่ เนื้อเป็ดทั้งตัว
- หม้อขนาด 34-60 ซม.: เป็นหม้อขนาดใหญ่ที่สุด เหมาะสำหรับการใช้งานในร้านอาหาร หรือการทำอาหารให้คนจำนวนมาก
ประเภทหม้อยอดนิยม มีแบบไหนบ้าง
ประเภทของหม้อหลักนั้นจะมีอยู่ทั้งหมด 6 แบบด้วยกัน ซึ่งแต่ละแบบนั้นจะมีรูปแบบการใช้งานที่แตกต่างกันด้วย โดยวิธีเลือกซื้อหม้อตามประเภทนั้นจะมีอยู่ด้วยกันดังนี้
- หม้อซอส: เป็นหม้อขนาดเล็ก มีด้ามจับยาว ออกแบบมาเพื่อการทำน้ำซอสและน้ำราดต่างๆ เป็นหลัก
- หม้อต้ม: เป็นประเภทหม้อที่พบเจอได้บ่อยที่สุด มีทั้งแบบที่มีหูจับแบบเดี่ยวและหูจับแบบคู่ ใช้ในการต้มน้ำซุป น้ำแกง ต้มเนื้อต้มผักต่างๆ
- หม้อตุ๋น: เป็นหม้อที่ออกแบบมาเพื่อการตุ๋นโดยเฉพาะ มีฝาปิดสนิทเพื่อรักษาความชื้นและอุณหภูมิ เหมาะสำหรับการต้มอาหารบนเตานานๆ
- หม้อแรงดัน: เป็นหม้อที่มีหน้าตาภายนอกคล้ายหม้อตุ๋น มีการอัดแรงดันเพื่อย่นระยะเวลาในการต้มและตุ๋น
- หม้อนึ่ง: เป็นหม้อที่มีตะแกรงภายในสำหรับใส่วัตถุดิบที่ต้องการนึ่ง มีทั้งตะแกรงที่สามารถถอดเปลี่ยนได้ หรือแบบที่ยึดติดอยู่กับหม้อ
- หม้อทอด: เป็นหม้อที่ออกแบบมาเพื่อการทอดอาหารมากกว่าการต้ม มีขอบหม้อที่สูง เพื่อป้องกันน้ำมัน และมีตะแกรงสะเด็ดน้ำมันภายในสำหรับใส่ของทอด
การเลือกวัสดุของหม้อ และการเคลือบ
นอกจากขนาดและประเภทการใช้งานแล้ว วัสดุของหม้อเองก็สำคัญเช่นเดียวกัน เพราะการเลือกวัสดุของหม้อให้เหมาะสม รวมถึงวัสดุหม้อเคลือบ มีผลต่ออายุการใช้งานและความคุ้มค่าในระยะยาว โดยวัสดุของหม้อต่างๆ มีอยู่ด้วยกัน ดังนี้
- หม้อสเเตนเลส: เป็นวัสดุมาตรฐานที่พบเจอได้ง่าย มีความแข็งแรง ทนทาน ราคาไม่สูง และส่วนมากสามารถใช้กับเครื่องล้านจานได้ แต่การกระจายความร้อน อาจจะไม่ดีเท่ากับวัสดุอื่นๆ
- หม้อทองแดง: เป็นวัสดุหม้อที่นำความร้อนได้ดี ร้อนไว แต่จำเป็นต้องใช้การดูแลรักษาเป็นพิเศษ และมีราคาที่สูง ทำให้เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบในการทำอาหาร หรือใช้งานในร้านอาหารต่างๆ มากกว่า
- หม้อเหล็ก: เหล็กเป็นวัสดุหม้อที่มีความทนทาน กระจายความร้อนได้ดี อาหารติดกระทะได้ยาก แต่ต้องระวังเรื่องการใช้เวลานานกว่าหม้อจะร้อนพร้อมทำอาหาร และทำความสะอาดได้ยาก
- หม้ออะลูมิเนียม: น้ำหนักเบา นำความร้อนได้ดี และราคาไม่สูง แต่ความทนทานไม่สูงมาก อาจจะบิดเบี้ยว หรือเป็นแนวขีดข่วนได้ง่าย
- หม้อแก้วทนไฟ: เป็นวัสดุแก้ว ทำให้หม้อมีความโปรงใส่ มองเห็นอาหารภายใน ใช้ต้มและทอดอาหารได้ และเหมาะกับคนทำงานสาย Content Creator ด้านอาหารมากกว่าจะนำไปใช้ในร้านอาหาร หรือต้องระวังเรื่องความบอบบาง
ส่วนวัสดุการเคลือบต่างๆ เพื่อเพิ่มความทนทาน ป้องกันอาหารติดก้นหม้อ จะมีหลักๆ ด้วยกัน 3 ชนิด ได้แก่
- หม้อเคลือบเซรามิก: มีความแข็งแรง ร้อนเร็ว ทนต่อรอยขีดข่วน อาหารไม่ติดกระทะ และทำความสะอาดได้ง่าย แต่จะไม่สามารถใช้ได้กับเตาบางประเภท
- หม้อเคลือบหินอ่อน: มีความทนทานที่สูงกว่าเซรามิก ทนต่อรอยขีดข่วน อาหารไม่ติดกระทะ และทำความสะอาดได้ง่ายเช่นเดียวกัน แต่ราคาจะสูงกว่าและร้อนช้ากว่าเซรามิก
- หม้อเคลือบเทฟลอน: ทนต่ออุณหภูมิที่สูงและต่ำ และไม่นำไฟฟ้า ทำให้สามารถใช้คู่กับเตาไฟฟ้าได้ แต่ต้องระวังเรื่องการขีดข่วน จากการขูดของตะหลิว และการใช้ฝอยขัดหม้อ
วิธีเลือกซื้อหม้อ ดูยังไงว่าใช้กับเตาแบบไหน
การเลือกหม้อให้เหมาะสมกับประเภทของเตาเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด เพราะหม้อบางประเภทอาจไม่เหมาะกับเตาบางแบบ รวมถึงไม่สามารถใช้งานร่วมกันได้ด้วย ซึ่งจะส่งผลต่อประสิทธิภาพในการปรุงอาหารและอายุการใช้งานของหม้อ โดยวิธีเลือกซื้อหม้อให้สามารถใช้งานได้กับเตาที่เรามีที่บ้านหรือร้านอาหารนั้น ให้ดูจากสัญลักษณ์เหล่านี้บนกล่องบรรจุหม้อเป็นหลัก
- สัญลักษณ์เปลวไฟ มีรูปเตาแก๊ส หรือคำว่า Gas: สามารถใช้กับเตาแก๊สได้
- สัญลักษณ์ขดลวด หรือมีคำว่า Induction: สามารถใช้กับเตาแม่เหล็กไฟฟ้าได้
- สัญลักษณ์วงกลม มีจุดตรงกลาง หรือมีคำว่า Electric: สามารถใช้กับเตาไฟฟ้าได้
- สัญลักษณ์ขีดเรียงเป็นวงกลม หรือมีคำว่า Ceramic, Glass: สามารถใช้กับเตาไฟฟ้าผิวกระจกหรือเซรามิกได้
หากไม่แน่ใจในเรื่องสัญลักษณ์ ควรสอบถามจากตัวแทนจำหน่ายหม้อที่สนใจ เพื่อให้มั่นใจว่าหม้อที่ซื้อจะสามารถใช้งานกับเตาที่มีได้จริง
การเลือกซื้อหม้อใบใหม่ให้เหมาะสมกับความต้องการและรูปแบบการใช้งานนั้น เป็นสิ่งสำคัญสำหรับทั้งครัวเรือนและร้านอาหาร เพราะวิธีเลือกซื้อหม้อ การพิจารณาปัจจัยต่างๆ อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นขนาด รูปทรง วัสดุ การเคลือบ และความเข้ากันได้กับเตาที่ใช้ จะช่วยให้คุณได้หม้อที่มีประสิทธิภาพ ทนทาน และคุ้มค่าในระยะยาว ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า และยังช่วยให้การทำอาหารมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย
เลือกซื้อหม้อ และอุปกรณ์ครัวที่ได้มาตรฐานจาก Oceantableware
Oceantableware คือ ผู้จัดจำหน่ายหม้อ กระทะ มีด และอุปกรณ์ครัวอื่นๆ ที่ได้มาตรฐาน จากแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ มีคุณภาพระดับเวิลด์คลาส เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร และจัดเลี้ยง รวมถึงบริษัทและองค์กรต่างๆ จากประสบการณ์กว่า 38 ปี เรามุ่งเน้นการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับประสบการณ์การรับประทานอาหารสู่ความทันสมัยอย่างมีสไตล์ ตอบโจทย์ทุกช่วงเวลาของความสุข ช่วยสร้างช่วงเวลาที่น่าจดจำ โอเชียนกลาสจึงเป็นผู้นำการจัดจำหน่ายมีด และเครื่องครัวอื่นๆ ของเอเชียและส่งออกไปมากกว่า 90 ประเทศทั่วโลก
สอบถามเกี่ยวกับอุปกรณ์ครัวได้ที่:
LINE: @oceanonline
โทร.: 062-390-0075
อีเมล: CS@oceanglass.com