สำหรับคนเข้าครัวทำอาหารบ่อยๆ และเชฟมือฉมัง การมีอุปกรณ์เครื่องครัวที่ดีถือเป็นความสุขอย่างหนึ่งเลยก็ว่าได้ หลายคนจึงพิถีพิถันในการเลือกเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นหม้อ กระทะ ตะหลิว และอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่มองข้ามไปไม่ได้ คือ “มีด” ซึ่งหลายคนมักมองข้าม เพราะคิดว่าแค่มีความคม ขนาดเหมาะมือก็ใช้ได้แล้ว แต่จริงๆ แล้ว หากเรามีความพิถีพิถันในการเลือกมีด รู้วิธีการเลือกซื้อมีดทำครัวที่ถูกต้อง จะทำให้การทำอาหารนั้นสนุกขึ้นกว่าเดิม

 

แล้วพ่อครัวแม่ครัวมือใหม่รู้รึเปล่าว่า ควรเลือกมีดทำครัวอย่างไรให้เหมาะสม มีทำจากวัสดุอะไรบ้าง แล้วมีมีดกี่ประเภทที่น่าซื้อติดบ้านเอาไว้

 

มีดทำครัว ผลิตจากวัสดุอะไรบ้าง?

สำหรับการเลือกมีดทำครัว หลายคนอาจจะไม่ทราบว่ามีดทำมาจากวัสดุประเภทใดบ้าง ส่วนใหญ่เรามักจะเห็นใบมีดที่เป็นเหล็กสีเงิน หรือ บางรุ่นอาจมีสีสันดูดึงดูดตา โดยมีที่เราเห็นได้ทั่วไปมีอยู่ 3 ประเภทหลัก ได้แก่

 

• มีดสเตนเลส (Stainless Steel)

มีดสเตนเลส คือ หนึ่งในวัสดุมีดที่เป็นที่นิยมอันดับหนึ่ง ตั้งแต่ในกลุ่มพ่อบ้านแม่บ้านทำครัว ไปจนถึงเชฟระดับมืออาชีพเลยก็ทีเดียว เนื่องจากเป็นหนึ่งในวัสดุที่มีความแข็งแรง มีความมันวาว ทนทานต่อการกัดกร่อนจากกรดและไม่เป็นสนิม ส่วนใหญ่ถูกออกแบบมาให้มีน้ำหนักพอดี สามารถใช้งานได้คล่องตัว นอกจากนี้ สเตนเลสยังช่วยลดโอกาสการปนเปื้อนในอาหาร สุดท้ายนี้มีดสเตนเลสยังเป็นมีดที่สามารถทำไปรีไซเคิล รักษาสิ่งแวดล้อมได้อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม มีดสเตนเลสมีข้อจำกัด คือ อาจเสียความคมได้รวดเร็ว จึงอาจต้องลับคมอยู่บ่อยๆ และทำให้เสียรูปทรงได้ง่ายกว่า เมื่อเทียบกับมีดที่ทำจากวัสดุอื่นๆ

 

• มีดเหล็กคาร์บอน (High Carbon)

เหล็กที่มีคาร์บอนสูงเป็นวัสดุที่มีความทนทานสูงกว่าสเตนเลสอย่างมาก ทำให้มีอายุการใช้งานยาวนาน มีระดับความคมสูงกว่า อีกทั้งสามารถคงความคมได้นาน ในส่วนของตัวมีด จะมีน้ำหนักประมาณหนึ่ง ส่งผลให้ไม่จำเป็นต้องออกแรงในการหั่นวัตถุดิบต่างๆ เยอะมากเท่าไหร่นัก

แต่สิ่งที่ควรคำนึงไว้คือ มีดเหล็กคาร์บอนสามารถเกิดเป็นสนิมได้ เมื่อต้องเจอกับความชื้นหรือเจอกับน้ำ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องหมั่นดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอ และไม่ควรแช่น้ำทิ้งไว้เด็ดขาด เมื่อทำความสะอาดเสร็จแล้วควรเช็ดให้แห้ง อีกทั้ง มีดคาร์บอนอาจมีน้ำหนักมากเกินไป ไม่เหมาะกับผู้ที่มีแรงน้อย ดังนั้นก่อนตัดสินใจซื้อ ควรลองจับมีดให้แน่ใจก่อนว่าจะมีขนาดและน้ำหนักที่พอดีกับมือ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุขณะใช้งาน

 

• มีดเซรามิก (Ceramic)

หากพบเห็นมีดที่มีสีสันต่างๆ นอกจากสีเงินหรือสีดำ ให้เดาได้เลยว่าเป็นมีดเซรามิก ซึ่งผลิตจากวัสดุเรียกว่า เซอร์โคเนียม ไดออกไซด์ (Zirconium Dioxide) ทำให้ใบมีดมีความคมสูงกว่ามีดสเตนเลสทั่วไป และคงความคมได้นานเช่นกัน ในขณะที่มีน้ำหนักเบากว่ามีดชนิดอื่นๆ ทำให้จับได้ถนัดมือ อีกทั้งยังปราศจากกลิ่นของโลหะ ทำให้วัตถุดิบไม่มีกลิ่นเหม็นเมื่อนำไปประกอบอาหาร

 

ทั้งนี้ มีดเซรามิกก็มีข้อเสียที่ควรใส่ใจคือ ใบมีจะมีความเปราะบางกว่ามาก ทำให้ไม่เหมาะกับการหั่นหรือสับวัตถุดิบที่มีลักษณะแข็งมากๆ อาทิ กระดูก หรือ อาหารแช่แข็ง เป็นต้น เพราะสามารถทำให้ใบมีดบิ่นหรือแตกหักได้

 

สรุปแล้ว หนึ่งในวิธีการเลือกซื้อมีดทำครัวที่ควรคำนึงเอาไว้ คือ การเลือกจากวัสดุของมีว่ามีความเหมาะสมกับรูปแบบการใช้งาน และตอบโจทย์เรามากน้อยแค่ไหนนั่นเอง พอรู้แล้วว่าต้องเลือกวัสดุอะไร ต่อไป มาดูกันว่าควรเลือกมีดทรงไหนเอาไว้บ้าง

 

มีดทำครัวแบบนี้ ต้องมีติดบ้านเอาไว้!

ปัจจุบันนี้ มีดถูกดีไซน์ออกมาหลายรูปทรง หลายขนาด ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการใช้งานที่แตกต่างกันไป เพื่อช่วยพ่อครัวแม่ครัวมือใหม่ ไม่ให้ต้องลังเลหรือสับสน มาดูมีดทำครัวที่ควรมีไว้ติดบ้านเป็นอันดับแรกกันเลย

 

มีดเชฟ (Chef’s Knife) และมีดอเนกประสงค์ (Utility Knife)

 

มีดเชฟและมีดอเนกประสงค์ถือเป็นมีดที่ “ครอบจักรวาล” ใช้งานได้แทบทุกประเภท ไม่ว่าจะหั่น สับ แล่ หรือซอย ก็ทำได้จบในเล่มเดียว ส่วนลักษณะก็ไม่ต้องพูดถึง เพราะเมื่อพูดคำว่า “มีด” ภาพในหัวของทุกคนต้องเป็นมีดเล่มนี้อย่างแน่นอน คือ เป็นมีดด้ามยาว ปลายแหลม ใบมีดกว้าง มีความโค้งเล็กน้อย มีขนาดยาวประมาณ 6-12 นิ้ว

ส่วนมีดอเนกประสงค์นั้นมีลักษณะคล้ายกับมีดเชฟเลย เพียงแต่มีความกว้างน้อยกว่า ขนาดยาวประมาณ 5-6 นิ้ว หากใครที่กำลังจะเข้าครัวแล้วล่ะก็ มีดเชฟและมีดอเนกประสงค์ถือเป็นมีดอันดับแรกที่ต้องเลือกซื้อเลยทีเดียว

 

มีดปอกผลไม้ (Paring Knife)

 

เป็นมีดที่มีขนาดเล็ก มักมีความยาวไม่เกิน 2-4 นิ้ว และด้ามจับอาจยาวกว่าหรือยาวพอๆ กับใบมีด จึงทำให้จับได้ถนัดมือ เหมาะกับการใช้งานที่ต้องการความละเอียดอ่อนอย่างการหั่นส่วนเสียของผัก หรือปอกเปลือกผลไม้เป็นชิ้นเล็กๆ เป็นต้น ใครที่ชอบจัดจานให้ดูดี อยากเสิร์ฟผลไม้ให้น่ากิน ต้องมีมีดปอกผลไม้เอาไว้ในครัว

 

มีดสับ (Cleaver)

 

หากให้พูดกันแบบคุ้นหูก็คือ มีดปังตอที่ทุกคนรู้จักกันดีนั่นเอง โดยตัวมีดจะมีลักษณะกว้างเป็นพิเศษ ปลายตัดเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีขนาดความยาวประมาณ 6-7 นิ้ว มีความหนาและน้ำหนักมาก ออกแบบมาเพื่อการ “สับ” โดยเฉพาะวัตถุดิบที่แข็งอย่างกระดูก ข้อต่อ ไปจนถึงการใช้เพื่อสับเนื้อสัตว์ให้ละเอียด ถือเป็นมีดอีกรูปแบบหนึ่งที่ได้รับความนิยมในครัวไทย และควรมีไว้ติดบ้าน

 

มีดทำครัวทั้ง 3 รูปแบบที่แนะนำไปนั้นล้วนเป็นมีดที่แนะนำให้เชฟมือใหม่เลือกซื้อไว้ติดบ้านเลย สำหรับใครที่เริ่มมีความชำนาญหรือต้องการเปิดโลกการทำอาหารให้กว้างขึ้น ก็มีมีดเฉพาะทางอย่าง มีดหั่นขนมปัง มีดหั่นเนื้อ มีดแล่ปลา มีดเลาะกระดูก

 

จบไปแล้วกับ “มีด” ที่เชฟต้องมีติดบ้านเอาไว้ ซึ่งใครที่กำลังมองหามีดคุณภาพดี ในราคาที่คุ้มค่า ที่ Oceantableware เรามีมีดในหลากหลายรูปแบบจากแบรนด์ Seagull ผู้นำด้านเครื่องครัวสเตนเลสสตีล คุณภาพมาตรฐานสากล ตอบสนองไลฟ์สไตล์การทำอาหารที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานในครัวเรือน หรือผู้ประกอบการด้านธุรกิจอาหาร ก็มั่นใจได้ว่าสามารถทำอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

สามารถดูรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมได้ที่ www.oceantableware.com/category/kitchenware/cookware/kitchen-knife 

 

Oceantableware คือผู้นำด้านการผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องแก้วในภูมิภาคเอเชีย ด้วยความเชี่ยวชาญในการผลิตเครื่องแก้วที่มีคุณภาพระดับเวิลด์คลาส เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร และจัดเลี้ยง รวมถึงบริษัทและองค์กรต่างๆ จากความชำนาญด้านการผลิตและการออกแบบที่เป็นเลิศกว่า 38 ปี เรามุ่งเน้นการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับประสบการณ์การกินดื่มสู่ความทันสมัยอย่างมีสไตล์ ตอบโจทย์ทุกช่วงเวลาของความสุข ช่วยสร้างช่วงเวลาที่น่าจดจำ โอเชียนกลาสจึงเป็นผู้ผลิตเครื่องแก้วชั้นนำของเอเชียและส่งออกไปมากกว่า 90 ประเทศทั่วโลก

สอบถามเกี่ยวกับ ถ้วย ชาม รวมไปถึงแก้วเครื่องดื่มทุกรูปแบบให้กับบ้าน ธุรกิจ และองค์กรของคุณได้ที่ www.oceantableware.com