ในยุคที่ธุรกิจอาหารออนไลน์และเดลิเวอรี (Food Delivery) เติบโตอย่างก้าวกระโดด ร้านอาหารแต่ละร้านต่างก็มีการแข่งขันที่ดุเดือดมากขึ้น และนอกจากเมนูอาหารที่น่าทาน น่าอร่อยแล้ว การเลือกใช้บรรจุภัณฑ์อาหารที่เหมาะสม ก็กลายเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ผู้ประกอบการนั้นควรใส่ใจไม่แพ้เมนูและคุณภาพอาหาร

เพราะบรรจุภัณฑ์อาหารที่ดี นอกจากจะช่วยรักษาคุณภาพและความสดใหม่ของอาหารแล้ว บรรจุภัณฑ์ยังเป็นตัวแทนของแบรนด์ที่สื่อสารไปยังลูกค้าโดยตรงได้อีกด้วย ในบทความนี้ Oceantableware จะพาทุกท่านไปทำความเข้าใจกับโลกของบรรจุภัณฑ์อาหารให้มากขึ้น ว่าบรรจุภัณฑ์อาหารในปัจจุบันมีอะไรบ้าง บรรจุภัณฑ์แบบไหน เหมาะกับเมนูอะไร และเทคนิคการเลือกใช้สำหรับร้านอาหารที่ไม่ควรพลาด

บรรจุภัณฑ์อาหารคืออะไร ทำไมจึงต้องมี

บรรจุภัณฑ์อาหาร หรือ Food Packaging คือ วัตถุที่ได้รับการออกแบบและผลิตมาเพื่อการหุ้มห่อ ป้องกัน เก็บรักษา และขนส่งอาหารจากผู้ผลิตไปยังผู้บริโภค เช่น กล่องข้าวพลาสติก ปิ่นโต แก้วน้ำ เป็นต้น ในขณะที่คนส่วนใหญ่อาจมองว่าบรรจุภัณฑ์อาหารมีการใช้งานที่ไม่แตกต่างจากการใช้ภาชนะอย่างจาน ชาม หรือถาดใส่อาหาร (Plate) แต่ความจริงแล้ว บรรจุภัณฑ์อาหารที่ดียังมีประโยชน์และข้อดีที่คนส่วนใหญ่อาจมองข้ามอยู่

หน้าที่ที่สำคัญที่สุดของบรรจุภัณฑ์คืออะไร?

หน้าที่ของบรรจุภัณฑ์อาหารไม่ได้มีแค่การหุ้มห่อป้องกันระหว่างการขนส่ง พกพาเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการป้องกันการปนเปื้อนและการเสื่อมสภาพของอาหาร ซึ่งรวมถึงการป้องกันความชื้น อากาศ แสง และจุลินทรีย์ที่อาจเป็นอันตรายได้ นอกจากนี้ บรรจุภัณฑ์ยังช่วยยืดอายุการเก็บรักษา เพิ่มความสะดวกในการขนส่ง และสร้างการรับรู้ที่ดีเกี่ยวกับแบรนด์ของเรา ทั้งจากรูปแบบบรรจุภัณฑ์อาหารที่เลือก และการพรินต์โลโก้ ทำลวดลายต่างๆ ที่เป็นเอกลักษณ์บนบรรจุภัณฑ์

สำหรับธุรกิจร้านอาหาร การใช้บรรจุภัณฑ์อาหารที่ไม่เหมาะสมอาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อความรู้สึกและความประทับใจของลูกค้า แสดงถึงความใส่ใจในคุณภาพ ชื่อเสียงของร้าน และทำให้ลูกค้ากลับมาเลือกซื้ออาหารอีกครั้ง ทำให้การเลือกบรรจุภัณฑ์นั้นเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญของการทำร้านอาหารยุคปัจจุบัน เพื่อการบริการประสบการณ์การรับประทานอาหารแบบครบวงจรสำหรับลูกค้าที่ต้องการสั่งอาหารกลับบ้าน หรือสั่งอาหารผ่านแพลตฟอร์มเดลิเวอรี่ต่างๆ 

ประเภทของบรรจุภัณฑ์อาหาร มีอะไรบ้าง

หากถามว่าบรรจุภัณฑ์อาหารมีอะไรบ้าง โดยทั่วไปแล้ว บรรจุภัณฑ์เหล่านี้จะสามารถจำแนกได้ตามวัสดุที่ใช้ผลิต โดยมีประเภทของวัสดุยอดนิยม ดังนี้

1. บรรจุภัณฑ์อาหารประเภทพลาสติก

เป็นประเภทที่พบเจอได้บ่อย มีราคาค่อนข้างถูก ไม่นำความร้อน และทนทานแรงกระแทก การฉีกขาด  มีรูปทรงและคุณสมบัติต่างๆ ให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการทนต่อความร้อน ใช้งานร่วมกับไมโครเวฟได้ หรือย่อยสลายง่าย แต่ต้องระวังเกี่ยวกับการปล่อยสารเคมีของพลาสติกบางชนิดเมื่อใช้งานผิดประเภท และพลาสติกยังเป็นวัสดุที่ง่ายสลายได้ยาก หากจัดการไม่เหมาะสมก็อาจทำให้เกิดขยะจำนวนมากได้

2. บรรจุภัณฑ์อาหารประเภทกระดาษ

เป็นประเภทที่พบเจอได้รองลงมา สามารถพิมพ์ลวดลายต่างๆ ได้ง่าย และยังย่อยสลายได้ง่าย สามารถนำมารีไซเคิลได้ ทำให้เหมาะสำหรับผู้ประกอบการและร้านอาหารที่มองหาทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แต่ในขณะเดียวกัน ก็ระวังเกี่ยวกับความชื้น และการใช้งานกระดาษชนิดที่ไม่ทนน้ำกับเมนูน้ำหรือซอสต่างๆ ด้วย

3. บรรจุภัณฑ์อาหารประเภทแก้ว

แก้วเป็นวัสดุที่เป็นมิตรต่ออาหาร ไม่ทำปฏิกิริยากับอาหาร มีความทนทานต่อทั้งความร้อนและเย็น และสามารถนำมาใช้ซ้ำด้วย เหมาะสำหรับการใช้บรรจุอาหารและเครื่องดื่มต่างๆ เช่น เมนูหมักดอง อาหารแห้ง ขนมอบ น้ำดื่ม แต่ในขณะเดียวกัน แก้วก็ค่อนข้างมีความบอบบาง แตกหักง่าย และมีต้นทุนที่สูง ทำให้เหมาะสำหรับบรรจุอาหารสำหรับทานที่ร้าน หรือเมนูซื้อกลับบ้านมากกว่าการใช้ในวงการฟู้ดเดลิเวอรี่

4. บรรจุภัณฑ์อาหารประเภทโลหะ

เป็นวัสดุที่นิยมใช้กับเครื่องดื่ม อาหารแปรรูป และอาหารกระป๋องต่างๆ วัสดุส่วนมากมักผลิตจากอะลูมิเนียมและเหล็กเคลือบเป็นหลัก ข้อดีของบรรจุภัณฑ์อาหารประเภทโลหะ คือ ความแข็งแรง ทนทานที่สูง ป้องกันแสงและอากาศจากภายนอกทำให้อาหารเน่าเสีย ทำให้สามารถเก็บรักษาอาหารได้ยาวนาน ในขณะเดียวกัน โลหะมีต้นทุนการผลิตที่สูงที่สุด ทำให้มักพบเจอบรรจุภัณฑ์อาหารแปรรูป มากกว่าในร้านอาหารทั่วไป

นอกจากวัสดุแล้ว บรรจุภัณฑ์อาหารยังมีรูปทรงที่แตกต่างกันไป เพื่อใช้เป็นภาชนะห่อหุ้มเมนูนั้นๆ โดยเฉพาะ เช่น กล่องข้าวพลาสติก กล่องกระดาษสำหรับใส่เมนูแห้ง ถ้วยกระดาษ แก้วพลาสติกทรงสูง โหลแก้ว และกระป๋องน้ำอัดลม เป็นต้น และที่สำคัญคือบรรจุภัณฑ์สำหรับอาหาร เคมีทุกชนิดที่สัมผัสกับอาหารต้องได้รับการรับรองมาตรฐาน Food Grade เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค

เลือกบรรจุภัณฑ์อย่างไรให้เหมาะกับประเภทอาหาร

การทำความเข้าใจประเภทของอาหาร 4 ประเภท (อาหารร้อน อาหารเย็น เครื่องดื่ม ขนมและเบเกอรี่) จะช่วยให้ผู้ประกอบการเข้าใจได้ว่าผลิตภัณฑ์อาหารควรใช้บรรจุภัณฑ์ลักษณะใด ถึงจะเหมาะสมและปลอดภัยที่สุด โดยสามารถเลือกใช้ได้ดังนี้

• อาหารร้อน: ควรเลือกบรรจุภัณฑ์ที่ทนต่ออุณหภูมิสูงได้ดี ไม่นำความร้อนจนไม่สามารถถือได้ และหากเป็นเมนูที่มีน้ำซุป น้ำแกงร้อนๆ ตักจากหม้อ ก็ควรเลือกบรรจุภัณฑ์อาหารที่สามารถกันน้ำได้ด้วย เช่น กล่องเก็บอาหารพลาสติกหรือแก้วที่กันความร้อน หรือถ้วยกระดาษที่กันน้ำได้

• อาหารเย็น: ในที่นี้ หมายถึงอาหารที่มีอุณหภูมิห้องหรือเย็น เช่น สลัด ขนมหวาน ไอศกรีมต่างๆ ที่สามารถเลือกใช้วัสดุต่างๆ ที่ปลอดภัยได้ตามชอบ แต่สำหรับเมนูที่จำเป็นต้องรักษาความเย็นหรือสามารถละลายได้ ก็ควรเลือกวัสดุที่กักเก็บอุณหภูมิได้ดี

• เครื่องดื่ม: ควรใช้กับบรรจุภัณฑ์อาหารที่ไม่ทำปฏิกิริยากับส่วนผสมของเครื่องดื่ม เช่น การใช้เหยือกแก้ว (Pitcher) และชุดเครื่องแก้วกับน้ำผลไม้รสเปรี้ยว ที่มีความเป็นกรดสูง รวมถึงการเลือกวัสดุต่างๆ ให้เหมาะสมกับประเภทเครื่องดื่มร้อน-เย็นด้วย

• ขนมอบและเบเกอรี่: ขนมอบส่วนใหญ่ ต้องการบรรจุภัณฑ์ที่ช่วยรักษาความกรอบและป้องกันความชื้น เช่น โหลแก้วหรือกล่องถนอมอาหารที่ปิดสนิท ป้องกันอากาศและความชื้นเข้าไปทำลายรสชาติและความกรอบ ส่วนขนมปังและเบเกอรี่ต่างๆ ก็สามารถใช้ถุงหรือกล่องกระดาษ กล่องพลาสติกได้เช่นกัน

นอกจากอาหารที่ใช้ใส่ในบรรจุภัณฑ์แล้ว การเลือกบรรจุภัณฑ์อาหารก็ยังสามารถขึ้นอยู่กับหลายๆ ปัจจัย เช่น คุณสมบัติของอาหารที่ใส่ ความเป็นกรด-ด่าง ความมัน เป็นเมนูน้ำหรือเมนูแห้ง รวมถึง ระยะเวลาการเก็บรักษา และวิธีการขนส่ง เพื่อคงคุณภาพของอาหารที่ดีที่สุดเมื่อถึงมือผู้รับ และเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าที่สุดทางธุรกิจ

เทคนิคการเลือกและใช้บรรจุภัณฑ์สำหรับธุรกิจร้านอาหาร

สำหรับเจ้าของธุรกิจร้านอาหาร การเลือกใช้บรรจุภัณฑ์อาหารที่ดีไม่ได้มีแค่การเลือกใช้ตามความเหมาะสมของอาหารเท่านั้น แต่ยังต้องคำนึงถึงความคุ้มค่า และผลกระทบทางธุรกิจที่สำคัญเช่นเดียวกัน

การคำนวณต้นทุน

การคำนวณต้นทุนบรรจุภัณฑ์อาหารต่อหน่วยเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ประกอบการต้องคำนึงถึง เพราะการตัดสินใจเลือกบรรจุภัณฑ์อาหารควรมีราคาที่เหมาะสม ไม่แพงจนเกินไปเมื่อเทียบกับเมนูที่เลือกใช้ และนอกจากต้นทุนแล้ว ยังต้องรวมค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บ การสูญเสียจากความเสียหาย และผลกระทบอื่นๆ ที่อาจทำให้บรรจุภัณฑ์นั้นๆ ไม่สามารถใช้งานได้อีก

มีตัวเลือกบรรจุภัณฑ์ที่หลากหลาย

การมีตัวเลือกบรรจุภัณฑ์ที่ครบครัน จะเหมาะกับร้านอาหารที่มีเมนูหลากหลาย เพื่อรองรับการใช้งานที่แตกต่างกันไป โดยอาจพิจารณาจำนวนบรรจุภัณฑ์จากเมนูขายดูเป็นหลัก เพื่อไม่ให้มีบรรจุภัณฑ์เหลือใช้เยอะจนเกินไป 

จัดการสต็อกให้เหมาะสม

การจัดการสต็อกให้เหมาะสมเป็นเรื่องที่ท้าทาย ไม่ว่าจะเป็นวัตถุดิบที่ใช้ประกอบอาหาร หรือบรรจุภัณฑ์อาหารต่างๆ ก็ตาม ควรวิเคราะห์ปริมาณการใช้งานรายวันและรายเดือน เพื่อการสั่งซื้อบรรจุภัณฑ์แต่ละแบบในปริมาณที่เหมาะสม และหลีกเลี่ยงปัญหาการขาดแคลนหรือสต็อกบรรจุภัณฑ์ล้นจนเป็นขยะในร้าน

ใช้บรรจุภัณฑ์อาหารเป็นเครื่องมือการตลาด

การใช้บรรจุภัณฑ์เป็นเครื่องมือการตลาดเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญที่จะช่วยเสริมภาพลักษณ์ของแบรนด์ สร้างความประทับใจ และทำให้ร้านของเราเป็นที่รู้จักได้ ด้วยการออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่สวยงาม สื่อสารตัวตนของแบรนด์ได้ชัดเจน มีการติดโลโก้ ชื่อร้าน ก็จะช่วยสร้างการรับรู้และความจดจำในใจลูกค้า นอกจากนี้ เทรนด์บรรจุภัณฑ์เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมก็กำลังได้รับความสนใจ การพิจารณาใช้วัสดุที่รีไซเคิลได้หรือย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ นอกจากจะช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์เช่นกัน

การเลือกใช้บรรจุภัณฑ์อาหารที่เหมาะสมเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับธุรกิจร้านอาหารทุกขนาด ไม่เพียงแต่ช่วยรักษาคุณภาพอาหารและสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้า แต่ยังเป็นการสร้างความแตกต่างและเสริมสร้างตัวตนของแบรนด์ในตลาดร้านอาหารที่มีการแข่งขันสูง เพราะบรรจุภัณฑ์อาหารที่ดี ไม่ได้เป็นเพียงแค่กล่องใส่อาหารเท่านั้น แต่ยังสามารถยกระดับเมนูและธุรกิจของเราให้ก้าวกระโดดไปอีกขั้น

เลือกซื้อกล่องข้าวที่ปลอดภัยจาก Oceantableware

Oceantableware คือ ผู้จัดจำหน่ายกล่องข้าวพลาสติก, กล่องข้าว, กล่องเก็บอาหาร, ถาดและอุปกรณ์ครัวอื่นๆ ที่ได้มาตรฐาน จากแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ มีคุณภาพระดับเวิลด์คลาส เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร และจัดเลี้ยง รวมถึงบริษัทและองค์กรต่างๆ จากประสบการณ์กว่า 38 ปี เรามุ่งเน้นการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับประสบการณ์การรับประทานอาหารสู่ความทันสมัยอย่างมีสไตล์ ตอบโจทย์ทุกช่วงเวลาของความสุข ช่วยสร้างช่วงเวลาที่น่าจดจำ โอเชียนกลาสจึงเป็นผู้นำการจัดจำหน่ายชุดแก้ว และเครื่องครัวอื่นๆ ของเอเชียและส่งออกไปมากกว่า 90 ประเทศทั่วโลก

สอบถามเกี่ยวกับกล่องข้าวและอุปกรณ์ครัวได้ที่: 

LINE: @oceanonline

โทร.: 062-390-0075

อีเมล: CS@oceanglass.com