ถ้าหากพูดถึงเรื่องของเครื่องดื่ม ทุกวันนี้มีเมนูเครื่องดื่มต่างๆ มากมายให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นตามท้องถนน ห้างสรรพสินค้าชื่อดัง หรือแม้กระทั่งในโรงแรมหรู แต่พอกล่าวถึงเมนูที่ฝังตัวในวัฒนธรรมเครื่องดื่มของเราแล้ว ก็คงหนีไม่พ้น “กาแฟ (Coffee)” ซึ่งถือเป็นเครื่องดื่มที่ใครหลายคนต้องมีติดไม้ติดมืออยู่เสมอๆ ไม่ว่าจะอยู่บ้าน ในออฟฟิศ หรือออกไปเที่ยวก็ตาม ในประเทศไทยเอง กาแฟได้ถูกนำมาปรับประยุกต์ใช้กับส่วนผสมอื่นเพื่อสร้างเมนูต่างๆ อย่างลาเต้ คาปูชิโน่ มอคค่า มัคคิอาโต หรืออื่นๆ ที่เราคุ้นชินกัน

 

แต่สำหรับคอกาแฟตัวยง คงทราบดีว่ายังมีศาสตร์กาแฟแบบดั้งเดิมตามแบบฉบับชาวอิตาเลี่ยนแท้ๆ อย่าง Doppio, Ristretto และ Lungo แล้วกาแฟทั้งสามแบบนี้เป็นอย่างไร? มาดูกันได้เลย

 

กาแฟ Doppio

มาเริ่มต้นกันที่กาแฟ Doppio เป็นเมนูสุดเข้มข้นโดนใจคอกาแฟสายดาร์กได้ดีทีเดียวเพราะ Doppio ก็คือ Double Shot Espresso หรือก็คือ การสกัดกาแฟออกมาแบบ 2 ช็อต ซึ่งให้ความเข้มข้นแบบคูณสองในแก้วกาแฟหนึ่งใบ ส่วนรสชาติก็จะมีความขมหรือเข้มข้นตามสายพันธุ์ไปด้วยนั่นเอง พูดได้เลยว่าเป็นกาแฟที่ดื่มแล้วตาตื่นได้ตลอดวันแน่นอน

โดยกาแฟ Doppio นั้นจะใช้เมล็ดกาแฟประมาณ 16-20 กรัม ในการสกัดน้ำกาแฟออกมาประมาณ 60 ml เป็นสาเหตุให้เมนูกาแฟแก้วนี้เข้มข้นถึงใจ ซึ่งอาจจะมีปริมาณคาเฟอีนสูงถึง 140 mg เลยทีเดียว เชื่อว่าน้อยคนที่จะสั่งเมนูนี้มาดื่ม แต่ก็เป็นอีกเมนูที่คอกาแฟต้องไม่พลาด

 

กาแฟ Ristretto

เมนู Ristretto เป็นกาแฟที่เหมาะกับคนที่ชอบรสชาติที่หอม เข้ม ไม่ติดเปรี้ยว และมีกลิ่นอโรม่าละมุนๆ ต้องเลือกเมนูนี้เลย เพราะ Ristretto คือ กาแฟที่ใช้สัดส่วนของน้ำในปริมาณที่น้อย เพื่อดึงเอารสชาติของกาแฟออกมาอย่างเข้มข้น เมื่อเทียบกับกาแฟ Espresso ที่อาจใช้กาแฟ 1 ส่วนต่อน้ำ 2 ส่วน หรือประมาณ 30 ml แต่ Ristretto นั้นจะใช้กาแฟ 1 ส่วนต่อน้ำ 1 ส่วน หรือประมาณ 20-22 ml ซึ่งจะทำให้น้ำร้อนไหลผ่านผงกาแฟและค่อยๆ สกัดน้ำกาแฟออกมาช้าๆ แบบไม่ขาดสาย 

แน่นอนว่ารสชาติของ Ristretto จะเข้มข้นกว่า Espresso ช็อตปกติ แต่ไม่เข้มข้นเท่ากับ Doppio อีกทั้งยังมีรสชาติโดยรวมที่หนักแน่นกว่า และได้ความหอมมันมากกว่า แต่ที่สำคัญคือมีปริมาณคาเฟอีนน้อยกว่าด้วย จึงเป็นเมนูที่เหมาะสำหรับใครที่ชอบดื่มกาแฟหลายๆ รอบในวันเดียวมากกว่า

 

กาแฟ Lungo

ในภาษาอิตาลี คำว่า Lungo แปลว่า “ยาว” ที่บ่งบอกถึงลักษณะการชงกาแฟที่จะใช้ปริมาณน้ำมากกว่า โดยอาจจะเป็น 2 เท่าของ Espresso ปกติ หรือ ก็คือประมาณ 60 ml หรือมากถึง 90 ml เลยทีเดียว ทั้งนี้ Lungo ไม่ใช่การเพิ่มน้ำร้อนแต่เป็นการสกัดเพิ่มอีกรอบหนึ่งในตัวกาแฟเดิม จึงมีรสชาติที่ติดเปรี้ยว ติดขม และฝาดกว่าอเมริกาโน่ที่เราคุ้นเคยกัน

พูดง่ายๆ ว่ากาแฟ Lungo เหมาะกับคนที่ชอบรสชาติแบบติดเปรี้ยวเป็นหลัก อีกทั้งยังได้ปริมาณคาเฟอีนที่มากกว่า Espresso แต่ก็ไม่ได้เข้มข้นเท่ากับ Doppio นั่นเอง

 

จะเห็นได้ว่าทั้ง 3 เมนูกาแฟนั้นเป็น Black Coffee หรือกาแฟดำทั้งหมด ซึ่งไม่มีส่วนผสมของนมหรือไซรัปเลย เรียกได้ว่าเป็นกาแฟแบบฉบับ Authentic ที่ชาวอิตาลีนิยมดื่มกันตามบาร์หรือร้านอาหาร ซึ่งหากเป็นในประเทศไทยเอง ก็สามารถสั่งเมนูเหล่านี้ ตามคาเฟ่ที่เสิร์ฟ Specialty Coffee ได้เลย แต่สำหรับใครที่ชื่นชอบการทำกาแฟด้วยตัวเองหรือกำลังวางแผนจะเปิดร้านคาเฟ่ แน่นอนว่าต้องมีแก้วกาแฟขนาดเล็กสำหรับใช้เสิร์ฟเมนูกาแฟเหล่านี้ ดังนั้นมาดูกันเลยว่ามีแก้วกาแฟแบบไหนบ้างที่น่าสนใจน่าซื้อ

 

แก้วกาแฟขนาดเล็กจาก Oceantableware

1. CAFFE ESPRESSO CUP

แก้วกาแฟใบนี้เป็นหนึ่งในแก้วจากซีรีส์ Caffe Premio โดยเป็นแก้ว Espresso ที่ออกแบบมาสำหรับบาริสต้าหรือผู้ที่ชอบการทำกาแฟโดยเฉพาะ เพราะมากับการออกแบบที่มีฟังก์ชันพิเศษ ดีไซน์แก้วทรงโค้งมน ที่ก้นแก้วด้านในช่วยให้น้ำกาแฟไหลอย่างต่อเนื่อง สามารถสร้าง “ครีม่า” ได้ดี อีกทั้งผนังแก้วนั้นมีความหนาพิเศษ  ช่วยรักษาอุณหภูมิของกาแฟให้ยาวนานขึ้น

 

แก้ว CAFFE ESPRESSO CUP มีขนาดเล็ก 70 ml (2 oz) จึงเหมาะกับการเสิร์ฟช็อตเอสเพรสโซ่อย่างมาก สามารถสั่งซื้อได้ที่เว็บไซต์ Oceantableware หรือ คลิก

 

2. NOUVEAU MUG

แก้วกาแฟแบบแก้วมัคที่สามารถใช้เสิร์ฟเมนูกาแฟได้หลากหลาย NOUVEAU MUG นั้นผลิตจากโซดาไลม์คุณภาพพรีเมี่ยม มีดีไซน์ที่คมชัดและเป็นเอกลักษณ์ มีความทนทานสูง สามารถใช้งานได้ง่ายและยาวนาน จึงเป็นอีกหนึ่งแก้วกาแฟที่คุ้มค่าอย่างมาก

 

แก้ว NOUVEAU MUG มีขนาด 200 ml (7 oz) ซึ่งเป็นขนาดที่เหมาะสม สามารถเสิร์ฟเมนูกาแฟได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Espresso, Doppio, Ristretto, Lungo หรือเมนูกาแฟผสมนมอื่นๆ ก็ได้เช่นกัน สามารถสั่งซื้อได้ที่เว็บไซต์ Oceantableware หรือ คลิก

 

3. CAFFE LATTE MODERNO

สำหรับใครที่ชื่นชอบดีไซน์ที่มีความทันสมัย CAFFE LATTE MODERNO ถือเป็นแก้วกาแฟที่สามารถตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี เพราะถูกออกแบบให้มีปากกว้าง มีผนังและฐานแก้วที่หนา ตัวแก้วมีความโค้งมน ช่วยสร้างครีม่าได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะใช้งานเองที่บ้านหรือใช้ในร้านอาหาร ก็สามารถช่วยให้ผู้ดื่มกาแฟเข้าถึงรสชาติได้อย่างล้ำลึก

 

แก้ว CAFFE LATTE MODERNO มีขนาด 280 ml (9 oz) แม้จะมีขนาดที่ใหญ่กว่าแก้วกาแฟสองใบแรกที่ได้แนะนำไป แต่ก็เป็นขนาดที่ใช้เสิร์ฟเมนูกาแฟได้หลากหลายเมนู ไม่ว่าจะเป็นเมนูช็อต เมนูผสมนม หรือเมนูสร้างสรรค์ต่างๆ ก็สามารถทำได้ สามารถสั่งซื้อได้ที่เว็บไซต์ Oceantableware หรือ คลิก

 

นอกจากแก้วกาแฟขนาดเล็กทั้งสามแบบข้างต้น ที่ Oceantableware ยังมีแก้วกาแฟและแก้วชาอีกหลากหลายคอลเลคชั่น ที่มาพร้อมกับดีไซน์ที่แตกต่าง พร้อมทั้งยังมีจานรองแก้วจำหน่ายอีกด้วย หากต้องการแก้วกาแฟหรือเครื่องแก้วอื่นๆ ไว้ติดบ้านหรือสำหรับใช้ในร้านอาหาร สามารถเข้ามาชมสินค้าได้ที่เว็บไซต์ของ Oceantableware เลย

 

Oceantableware คือผู้นำด้านการผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องแก้วในภูมิภาคเอเชีย ด้วยความเชี่ยวชาญในการผลิตเครื่องแก้วที่มีคุณภาพระดับเวิลด์คลาส เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร และจัดเลี้ยง รวมถึงบริษัทและองค์กรต่างๆ จากความชำนาญด้านการผลิตและการออกแบบที่เป็นเลิศกว่า 38 ปี เรามุ่งเน้นการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับประสบการณ์การกินดื่มสู่ความทันสมัยอย่างมีสไตล์ ตอบโจทย์ทุกช่วงเวลาของความสุข ช่วยสร้างช่วงเวลาที่น่าจดจำ โอเชียนกลาสจึงเป็นผู้ผลิตเครื่องแก้วชั้นนำของเอเชียและส่งออกไปมากกว่า 90 ประเทศทั่วโลก

สอบถามเกี่ยวกับ ถ้วย ชาม รวมไปถึงแก้วเครื่องดื่มทุกรูปแบบให้กับบ้าน ธุรกิจ และองค์กรของคุณได้ที่ www.oceantableware.com