สำหรับใครที่เป็นมือใหม่ในการก้าวเข้ามาในวงการดื่มไวน์ หลายคนอาจจะยังตราตรึงอยู่ในรสชาติไวน์จากที่ร้านอาหารหรือที่ร้านไวน์นำมาเสิร์ฟให้ แต่เคยสงสัยกันหรือไม่ว่า “ทำไมไวน์ถึงได้มีรสชาติดีขนาดนั้น?”

ทั้งที่ไวน์บางขวดอาจจะมีรสชาติที่ไม่ได้เตะลิ้นมากนัก สังเกตได้จากที่เวลาเราซื้อและรินไวน์ดื่มเอง ซึ่งจริงๆ แล้วในการดื่มไวน์นั้น มีทริคเล็กๆ ที่ช่วยในเรื่องรสชาติอยู่ด้วย ตั้งแต่กระบวนการเสิร์ฟ อย่างการใช้ “เหยือก” ที่เป็นเหยือกดีไซน์เฉพาะสำหรับการใส่ไวน์และเสิร์ฟ หรือที่เรียกว่า Decanter นั่นเอง

เพราะการดื่มไวน์ ต้องมีความพิถีพิถัน จึงจะได้ดื่มด่ำกับรสชาติที่ดีที่สุด เหยือกที่เหมาะกับการใส่ไวน์เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่จะช่วยดึงรสชาติของไวน์ออกมาได้มากขึ้น วันนี้เราจึงจะมาบอกวิธีการเลือกเหยือกใส่ไวน์ ให้ได้เหยือกที่เหมาะ เพื่อสร้างประสบการณ์และสุนทรียะในการดื่มไวน์ดีๆ ได้เองที่บ้าน

เลือกเหยือกที่ใช่ ให้ไวน์ขวดโปรด

ใครที่เข้ามาในวงการดื่มไวน์ใหม่ๆ อาจจะยังไม่คุ้นเคยกับวิธีการที่เรียกว่า Decanting ซึ่งก็คือ กระบวนการถ่ายไวน์จากขวดเดิมมาพักไว้ในเหยือกไวน์ที่เรียกว่า Decanter ที่ปกติจะใช้กับไวน์แดงเท่านั้น โดยจะใช้กับทั้งไวน์เก่าและไวน์ใหม่ เพื่อเป็นการกรองตะกอนที่อยู่ในขวดเก่าและยังเป็นการช่วยเสริมให้รสชาติของไวน์ดีขึ้น เพราะไวน์จะได้รับอากาศมากขึ้นระหว่างที่ทำการ Decanting เป็นวิธีที่ช่วยให้สามารถดื่มไวน์ได้โดยไม่ต้องรอเวลาให้ไวน์รีเฟรชเองเลย นี่คือข้อสำคัญที่ช่วยให้ไวน์ที่มีรสชาติดียิ่งขึ้น ซึ่งในการเลือกซื้อเหยือกมาใส่ไวน์ ก็มีข้อที่จะต้องพิจารณา เพื่อให้ได้เหยือกที่เหมาะกับไวน์ที่ชอบมากที่สุดด้วย

ดีไซน์ของเหยือก เพื่อไวน์แต่ละชนิด

สิ่งหนึ่งที่ควรจะต้องพิจารณาในการเลือกเหยือกนั่นก็คือ ดีไซน์และขนาดของเหยือกใส่ไวน์ เพราะนอกจากในเรื่องของความสวยงามแล้ว ดีไซน์เหยือกที่แตกต่าง ยังเป็นอีกปัจจัยที่ออกแบบมาเพื่อให้เหมาะกับการ Decanting ไวน์แต่ละชนิดด้วยเช่นกัน โดยรูปทรงของเหยือกจะส่งผลต่อการเพิ่มปริมาณออกซิเจนเข้าไปในตัวไวน์ได้อย่างเหมาะสมนั่นเอง โดยข้อหลักๆ ที่ควรพิจารณาคือ

• Full-bodied Red Wines เช่น Cabernet Sauvignon, Little Sira, Dannin, Monastrell, Tampanillo เป็นต้น หรือไวน์แดงเข้มที่มีปริมาณแทนนินสูงหรือมีรสฝาด และจะต้องใช้เวลาบ่มในขวดเป็นเวลานาน เพื่อเร่งกระบวนการของรสชาติ ควรจะใช้เหยือกหรือ Decanter ที่มีลักษณะฐานกว้างเพื่อเพิ่มปริมาณให้ออกซิเจนได้สัมผัสกับตัวไวน์ได้มากขึ้น
• Medium-bodied Red Wines หรือไวน์แดงบอดี้กลางๆ เช่น Melo, Sangiovise, Barbera, Dolcheto เป็นต้น ควรจะต้องเลือกใช้เหยือกไวน์ขนาดกลาง
• Light-bodied Red Wines หรือไวน์แดงที่มีบอดี้เบา เช่น Pinot Noir หรือ Borole ควรเลือกใช้เหยือก Decanter ขนาดเล็กถึงขนาดกลางในการเสิร์ฟ
• White and Rosé Wines ส่วนสำหรับไวน์ขาวและไวน์โรสนั้น ไม่จำเป็นต้องใช้เหยือกพัก แต่ก็สามารถใช้เหยือกอื่นๆ เช่น เหยือกแบบ Carafe ในการเสิร์ฟก็ได้

เมื่อเลือกขนาดและดีไซน์ของเหยือกที่เหมาะกับไวน์ได้แล้ว ก็ควรจะสังเกตด้วยว่า เหยือกไวน์ที่เลือกจะสามารถใช้งานได้อย่างสะดวกในการรินได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงสามารถนำไปทำความสะอาดได้ง่ายหลังการใช้งานด้วย เพียงเท่านี้เราก็จะได้เหยือกที่ทั้งถูกใจไว้ใช้กับไวน์ขวดโปรดได้อย่างลงตัวที่สุดแล้ว

เหยือก Decanter สำคัญแค่ไหน ใช้เหยือกแบบอื่นใส่ไวน์ได้เหมือนกันไหม?

เป็นหนึ่งสิ่งที่ทำให้หลายคนสงสัยกันอยู่บ้างว่า จริงๆแล้วเหยือกใส่ไวน์ Decanter มีความจำเป็นจะต้องใช้ในการดื่มไวน์มากแค่ไหน? และถ้าจะใช้เหยือกแบบอื่นๆ เช่น Carafe แทนจะสามารถใส่ไวน์ได้เหมือนกันหรือไม่? เพื่อตอบคำถามนี้ ให้ชัดเจนมากขึ้น ก็ต้องอธิบายดังนี้

เหยือกไวน์ หรือ Decanter เป็นเหยือกแก้วที่ได้รับการออกแบบมาอย่างเฉพาะตัว เพื่อให้เหมาะกับการนำมารินไวน์จากขวด ถือเป็นอุปกรณ์สำคัญในกระบวนการดื่มไวน์เลยก็ว่าได้ เพราะด้วยดีไซน์ของเหยือกที่คิดมาเพื่อการถนอมรสชาติไวน์โดยเฉพาะ และยังช่วยให้การเสิร์ฟไวน์ง่ายขึ้น จึงทำให้เหยือกไวน์ Decanter เหมาะที่สุดในการนำมาใช้ใส่ไวน์ เป็นอีกสิ่งที่คอไวน์ต้องมีติดบ้านไว้เลยทีเดียว

แต่หากจะลองหยิบเหยือกแบบอื่นๆ เช่น เหยือก Carafe มาใส่ไวน์แทน เพราะมีขนาดกะทัดรัด ดีไซน์เรียบ ก็สามารถเลือกใช้ได้เช่นกัน แต่อาจจะไม่ได้รสชาติของไวน์ที่ดีเท่ากับการใช้ Decanter มากเท่าที่ควรหากเป็นไวน์แดง แนะนำว่าถ้าใช้ใส่ไวน์ขาวหรือโรสไวน์ก็จะไม่ส่งผลต่อรสชาติแต่อย่างใด เพราะเหยือกแบบ Carafe นั้น จะเหมาะกับการใส่น้ำดื่ม น้ำผลไม้ โซดา และเครื่องดื่มเย็นชนิดอื่นๆมากกว่า ด้วยดีไซน์ที่แตกต่างกันชัดเจน จะเห็นได้ว่าเหยือกใส่ไวน์จะมีความพิเศษที่ ฐานเหยือกแผ่กว้าง และมีคอเหยือกที่สูง นั่นก็เพื่อให้เหมาะต่อการพักไวน์หรือที่เรียกว่า Decanting เพิ่มอากาศเข้าไปผ่านตัวไวน์ เพื่อให้รสชาติไวน์ที่ดียิ่งขึ้นนั่นเอง

เลือกเหยือกแก้วระดับพรีเมียมและเนื้อคริสตัลปลอดสารตะกั่ว เพื่อการใช้งานที่ดีกว่า

ในส่วนของการผลิตเหยือกนั้น การเลือกใช้วัสดุก็ส่งผลต่อคุณภาพและการใช้งานด้วยเช่นกัน โดยเหยือกแก้วนั้น ถูกผลิตขึ้นจากแก้วหลากหลายคุณภาพ เพื่อให้เอื้อต่อราคาและการใช้งานที่แตกต่าง แน่นอนว่าเหยือกไวน์ นอกจากจะต้องคำนึงถึงเรื่องรูปแบบ ดีไซน์ และขนาดที่เหมาะสมแล้ว ทางเลือกที่ดีที่สุดคือการเลือกเหยือกแก้วที่ผลิตจากวัสดุระดับพรีเมียม เช่น เหยือกแก้วเนื้อคริสตัลปลอดสารตะกั่ว ที่มีความทนทานสูงกว่า จึงสามารถใช้งานได้ยาวนานและคุ้มค่ากว่าเหยือกแก้วที่ใช้วัสดุระดับมาตรฐานทั่วไป อย่างเช่น เหยือกแก้วจาก Oceantableware ที่ผลิตด้วยแก้วคุณภาพสูงระดับพรีเมียม ใส่ใจกับดีไซน์ที่เหมาะกับการใช้งานทุกรูปแบบ เช่น เหยือกใส่ไวน์ ที่มีให้เลือกหลากหลาย โดดเด่นด้วยวัสดุ “เนื้อคริสตัลปลอดสารตะกั่ว” ที่ออกแบบมาเพื่อดึงรสชาติ และเพิ่มสุนทรียะให้การดื่มไวน์ให้พิเศษมากยิ่งขึ้น

ทั้งหมดนี้ก็เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการเลือกใช้เหยือกให้เหมาะกับไวน์ เพื่อให้ได้ประสบการณ์การดื่มด่ำที่ดีที่สุด สำหรับนักดื่มไวน์หน้าใหม่ ที่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกเหยือกได้จากที่ไหน ลองเลือกเหยือกไวน์จาก Oceantableware ติดบ้านไว้สักใบ รับรองว่าคุณอาจจะลืมการดื่มไวน์จากขวดแบบเดิมไปเลยก็ได้ หรือในช่วงปลายปีแบบนี้ใครที่กำลังหาของขวัญอยู่ ทาง Oceantableware นอกจากจะมีเหยือกสวยๆ แล้ว ยังมีชุดเครื่องแก้วระดับพรีเมียมให้เลือกอีกมากมาย หลากหลายแบบที่เหมาะกับคนพิเศษในวันพิเศษ

Oceantableware คือผู้นำด้านการผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องแก้วในภูมิภาคเอเชีย ด้วยความเชี่ยวชาญในการผลิตเครื่องแก้วที่มีคุณภาพระดับเวิลด์คลาส เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร และจัดเลี้ยง รวมถึงบริษัทและองค์กรต่างๆ จากความชำนาญด้านการผลิตและการออกแบบที่เป็นเลิศกว่า 38 ปี เรามุ่งเน้นการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับประสบการณ์การกินดื่มสู่ความทันสมัยอย่างมีสไตล์ ตอบโจทย์ทุกช่วงเวลาของความสุข ช่วยสร้างช่วงเวลาที่น่าจดจำ โอเชียนกลาสจึงเป็นผู้ผลิตเครื่องแก้วชั้นนำของเอเชียและส่งออกไปมากกว่า 90 ประเทศทั่วโลก

สอบถามเกี่ยวกับเหยือกน้ำ เหยือกแก้ว รวมไปถึงแก้วเครื่องดื่มทุกรูปแบบให้กับบ้าน ธุรกิจ และองค์กรของคุณได้ที่ www.oceantableware.com