
น้ำเป็นสิ่งที่ร่างกายขาดไม่ได้ อย่างที่ทราบกันดีว่าน้ำเป็นส่วนประกอบกว่า 70% ของร่างกายและจะช่วยฟื้นฟู ช่วยการทำงานต่างๆ ของร่างกาย ซึ่งเชื่อว่าในทุกครัวเรือนต้องมีเหยือกน้ำที่วางไว้ในตู้เย็น บนโต๊ะอาหาร หรือตั้งไว้บนโต๊ะทำงาน สำหรับใส่น้ำไว้เทดื่ม เพิ่มความสะดวกสบาย ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาเดินไปกดน้ำ หรือเข้าห้องครัวเพื่อเติมน้ำใส่แก้วบ่อยๆ
ในบทความนี้ ขอพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ “เหยือกน้ำ” ให้มากขึ้น อีกทั้งแนะนำเคล็ดลับที่ไม่ลับในการเลือกเหยือกที่ใช่ เพื่อให้ใช้งานสะดวกสบายกว่าเดิม
เหยือกน้ำมาจากไหน?
ชุดเหยือกน้ำเป็นข้าวของเครื่องใช้ที่อยู่ประจำบ้านของทุกๆ คนไปแล้ว จนหลายคนอาจไม่ได้นึกถึงที่มาของภาชนะชนิดนี้ ซึ่งตามประวัติศาสตร์แล้ว อาจย้อนไปนานถึง 2,000 B.C. (ก่อนคริสต์ศักราช) ในอารยธรรมโบราณต่างๆ เช่น อารยธรรมจีน เป็นต้น ซึ่งเป็นในยุคที่เริ่มมีการนำดินเหนียวมาทำเป็นเซรามิก สร้างภาชนะต่างๆ รวมถึงเหยือกน้ำและแก้วน้ำด้วยนั่นเอง
เมื่อกาลเวลาผ่านไป มีการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมเกิดขึ้น เหยือกน้ำจึงได้แพร่หลายไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก จนกลายเป็นที่รู้จักกันในปัจจุบันนี้ ซึ่งก็ได้มีการใช้วัสดุอย่างพลาสติก โลหะ และแก้ว เพื่อนำมาผลิตเหยือกน้ำ ทั้งสามเป็นวัสดุที่เลือกหาซื้อได้ทั่วไปตามห้างร้านต่างๆ และมีการจำหน่ายเหยือกน้ำพร้อมแก้วเป็นเซต
แต่ในตอนนี้ หากใครเคยสังเกต จะเห็นได้ว่าเหยือกน้ำมีลักษณะที่แตกต่างกันไป และยังมีคำเรียกที่ต่างกัน ชวนให้หลายคนมึนงงไปตามๆ กัน
รูปแบบของเหยือกน้ำที่ไม่ซ้ำกัน
เหยือกน้ำนั้นมีหลายแบบ แต่ทุกแบบล้วนมีจุดประสงค์เดียวกันคือการบรรจุน้ำ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายนั่นเอง โดยเหยือกน้ำมีรูปแบบต่างๆ ดังนี้
1.Jug
หากพูดง่ายๆ Jug ก็คือเหยือกน้ำทั่วๆ ไปนั่นเอง โดยจะมีความจุอยู่ที่ 1 ลิตรขึ้นไป มีปากที่กว้างเท่าๆ กับขนาดของเหยือก มีด้ามจับ และจะมีมุมที่ยื่นออกมาเพื่อให้สามารถรินหรือเทน้ำได้สะดวกโดยไม่หกเลอะเทอะ
2.Ewer
สำหรับ Ewer นั้น เป็นคำภาษาฝรั่งเศส โดยหากดูแบบผิวเผินอาจมีลักษณะที่คล้ายกับ Jug เลย แต่ว่าจะมีปากที่กว้างกว่า และในสมัยก่อน ทางยุโรปจะมีการตกแต่งเหยือกน้ำ Ewer ด้วยลวดลายที่สวยงามอีกด้วย
3.Pitcher
Pitcher นั้นใช้เรียกเหยือกน้ำที่มีลักษณะเดียวกันกับ Jug เพียงแต่เป็นคำศัพท์ที่ใช้กันในประเทศอเมริกา ซึ่งในปัจจุบันเหยือกน้ำประเภทนี้มักจะมาพร้อมกับฝาปิด ป้องกันไม่ให้น้ำหก ในกรณีที่รินน้ำแรงเกินไป
4.Carafe
เหยือกน้ำ Carafe จะมีความแตกต่างจากสามประเภทก่อนหน้านี้ เนื่องจากเป็นเหยือกน้ำทรงกระบอก ที่ใช้เสิร์ฟได้ทั้งน้ำเปล่า ไวน์ หรือแม้กระทั่งกาแฟ มีลักษณะเหมือนกระบอกน้ำ ทรงสูง และไม่มีด้ามจับ เพื่อที่จะประหยัดพื้นที่บนโต๊ะอาหาร
5.Decanter
เหยือกน้ำประเภทนี้มีไว้สำหรับใส่ไวน์โดยเฉพาะ ซึ่งอาจมีลักษณะที่ไม่คุ้นตานัก โดยจะมีก้นแก้วที่บานออกและมีคอขวดเรียวยาวที่แคบลงมา มีไว้สำหรับใส่ไวน์ เพื่อให้ไวน์นั้นได้สัมผัสกับอากาศ ปลดปล่อยกลิ่นและรสชาติออกมาได้ดีขึ้น ทำให้ไวน์ใน Decanter มีรสชาติที่ดียิ่งกว่าเดิม อีกทั้งยังช่วยกรองตะกอนในน้ำไวน์ที่มักเกิดขึ้นในไวน์แดง ทำให้ไวน์ใสขึ้นอีกด้วย
จะเห็นได้ว่าเหยือกน้ำนั้นมีหลายประเภทมากๆ เชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่มักจะคุ้นเคยกับ Pitcher หรือ Carafe มากกว่าเหยือกน้ำรูปแบบอื่น เพราะเป็นที่ใช้งานกันประจำทุกครัวเรือน รวมไปถึงร้านอาหารและคาเฟ่ต่างๆ ด้วย
เคล็ดลับที่ไม่ลับในการเลือกเหยือกน้ำที่ใช่
เหยือกน้ำเป็นหนึ่งในอุปกรณ์เครื่องครัวที่หลายคนมักซื้อครั้งเดียว และใช้ไปยาวๆ เมื่อเป็นอย่างนี้แล้ว ก็ต้องเลือกซื้อเหยือกน้ำที่เหมาะกับการใช้งานและใช่ที่สุด มาดูเคล็ดลับที่ไม่ลับในการเลือกซื้อเหยือกน้ำกันเลย
1.จุดประสงค์การใช้งาน
ข้อสำคัญอย่างแรกที่ต้องพิจารณาคือ การใช้งานเหยือกน้ำ ตัวอย่างเช่น หากจะใช้เพื่อเสิร์ฟน้ำให้กับแขก Carafe อาจจะเหมาะสม เพราะประหยัดพื้นที่ หรือถ้าจะใช้บรรจุน้ำดื่มก่อนแช่ในตู้เย็น ก็อาจเลือกเป็น Pitcher ที่หยิบจับสะดวก เป็นต้น นอกจากนี้ต้องพิจารณาด้วยว่าจะใช้บรรจุเครื่องดื่มประเภทใด
2.ความจุ
เพื่อไม่ต้องเดินเข้าครัวหรือเติมน้ำบ่อยๆ ความจุของเหยือกน้ำจึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่มองข้ามไม่ได้ ซึ่งปัจจุบันเหยือกน้ำจะมีให้เลือกหลายขนาด ตั้งแต่ขนาดจิ๋วแบบ 300 มล. สำหรับผู้ที่ใช้งานคนเดียว ไปจนถึงขนาดใหญ่ 3 ลิตร ที่เหมาะกับครอบครัว และสำหรับใครก็ตามที่ชอบดื่มน้ำเย็น ต้องดูด้วยว่าขนาดของเหยือกนั้นสามารถนำเข้าตู้เย็นได้พอดีหรือเปล่า
3.วัสดุของเหยือกน้ำ
ทุกวันนี้มีเหยือกน้ำที่ผลิตมาจากวัสดุหลายประเภท โดยที่นิยมใช้มักจะเป็น พลาสติก โลหะ สแตนเลส และแก้ว ซึ่งการเลือกซื้อก็ขึ้นอยู่กับความชอบและงบประมาณ เช่น
- พลาสติก มีราคาที่ถูกกว่าและอาจมีลวดลายให้เลือกเยอะ แต่จะมีอายุการใช้งานที่น้อย และยังต้องระวังพลาสติกที่มีสาร BPA ที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพอีกด้วย
- โลหะหรือสเตนเลส มีความทนทานสูงมาก ใส่ได้ทั้งน้ำร้อนและเย็น แต่อาจทำให้มองเห็นน้ำภายในเหยือกได้ยาก และมีลวดลายให้เลือกไม่มากนัก เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้งานบ่อยๆ หรือต้องพกพาไปไหนมาไหน
- แก้ว เหยือกน้ำที่เป็นแก้วนั้น เรียกได้ว่าเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย เพราะมีความทนทาน สวยงาม ตกแต่งลวดลายได้ นอกจากนี้ความใสของแก้วทำให้มองเห็นน้ำภายในได้ชัดเจน อีกทั้งยังปราศจากสารเคมีปนเปื้อน จึงบรรจุน้ำได้หลายประเภท โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการกัดกร่อน เหมาะกับครัวเรือนทั่วไปและการใช้งานในชีวิตประจำวัน
4.รูปร่างของเหยือก
อย่างที่กล่าวไปข้างต้น เหยือกแก้วนั้นมีรูปร่างและขนาดที่แตกต่างกัน ซึ่งส่งผลต่อการจัดวางและการจัดเก็บ โดยต้องพิจารณาทั้งขนาดของโต๊ะอาหารและพื้นที่ในตู้เย็น หรือพื้นที่อื่นๆ ที่จะน้ำเหยือกน้ำไปจัดเก็บ เพื่อในแน่ใจได้ว่าจะมีพื้นที่เพียงพอ ไม่ล้นออกที่เก็บมานั่นเอง
5.ความปลอดภัยในการบรรจุเครื่องดื่ม
หลายคนมักใช้งานเหยือกน้ำเพื่อบรรจุเครื่องดื่มเป็นเวลานานๆ จึงต้องแน่ใจว่าภาชนะนี้จะไม่ส่งผลน้ำภายใน หากกังวลเรื่องฝุ่นหรือสิ่งแปลกปลอมตกลงไปข้างในเหยือก แนะนำให้เลือกซื้อ Pitcher แบบมีฝาปิด หรือหากต้องการบรรจุเครื่องดื่มที่มีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ อย่างน้ำมะนาว แนะนำให้เลือกใช้แก้วแทนพลาสติกจะดีกว่า รวมถึงหากใส่เครื่องดื่มที่มีอุณหภูมิสูง ก็แนะนำให้ใช้แก้วสเตนเลสได้เลย
ทั้งหมดนี้ก็เป็นความรู้เล็กน้อยเกี่ยวกับเหยือกน้ำที่หลายคนอาจจะไม่ทราบมาก่อน ส่วนใครที่กำลังมองหาเหยือกน้ำคุณภาพดีๆ หรือเซตเหยือกน้ำพร้อมแก้ว สามารถเข้ามาค้นหาได้ที่ www.oceantableware.com/category/drinkware/pitchers-carafes
Oceantableware เป็นผู้นำในการผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องแก้วในภูมิภาคเอเชีย ด้วยความเชี่ยวชาญในการผลิตเครื่องแก้วที่มีคุณภาพระดับเวิลด์คลาส เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร และจัดเลี้ยง รวมถึงบริษัทและองค์กรต่างๆ จากความชำนาญด้านการผลิตและการออกแบบที่เป็นเลิศกว่า 38 ปี เรามุ่งเน้นการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับประสบการณ์การกินดื่มสู่ความทันสมัยอย่างมีสไตล์ ตอบโจทย์ทุกช่วงเวลาของความสุข ช่วยสร้างช่วงเวลาที่น่าจดจำ โอเชียนกลาสจึงเป็นผู้ผลิตเครื่องแก้วชั้นนำของเอเชียและส่งออกไปมากกว่า 90 ประเทศทั่วโลก
สอบถามเกี่ยวกับแก้วเครื่องดื่มทุกรูปแบบให้กับบ้าน ธุรกิจ และองค์กรของคุณได้ที่ www.oceantableware.com