ตะหลิวถือเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์เครื่องครัวพื้นฐานที่สำคัญ และแทบทุกบ้านจะต้องมีอย่างแน่นอน โดยบริเวณหัวถูกออกแบบให้มีลักษณะแบนสำหรับตัก พลิก และคลุกวัตถุดิบปรุงอาหารให้เข้ากัน ในขณะที่บริเวณด้านจับมีความยาวให้เลือกตั้งแต่ 15-40 เซนติเมตร โดยทั่วไปมักใช้งานตะหลิวคู่กับกระทะในการทอดและผัด
การแบ่งประเภทของตะหลิวขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้ผลิต โดยตะหลิวสามารถแบ่งได้หลายประเภทตามชนิดของวัสดุที่ใช้ในการผลิตตะหลิว อาทิ
จุดเด่นของตะหลิวประเภทนี้ คือ ความแข็งแรง ทนทาน และดูแลทำความสะอาดง่าย โดยบริเวณด้ามจับไม่จำเป็นต้องทำจากวัสดุสแตนเลสเสมอไป เพราะสามารถใช้วัสดุอื่นๆ ที่ไม่นำความร้อนมาทดแทนได้
ความสวยงามของลวดลายไม้เป็นจุดเด่นที่ทำให้ตะหลิวไม้ได้รับความนิยมใช้งาน นอกจากนี้ ตะหลิวไม้ยังช่วยถนอมผิวกระทะได้เป็นอย่างดี เนื่องจากไม่ทำให้เกิดรอยขีดข่วน
ตะหลิวซิลิโคนเป็นตะหลิวอีกหนึ่งประเภทที่ช่วยถนอมผิวกระทะได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังไม่ทำปฏิกิริยากับวัตถุดิบ ช่วยรักษารสชาติของอาหาร และทนต่อความร้อนได้ดีเยี่ยม
ตะหลิวพลาสติกมีข้อดี คือ น้ำหนักเบา ดูแลทำความสะอาดง่าย และไม่ทำให้ผิวกระทะเป็นรอยขีดข่วน แต่ควรเลือกใช้ตะหลิวพลาสติกคุณภาพดี ซึ่งผลิตจากพลาสติกที่ทนความร้อนได้สูง และไม่มีสารอันตรายปนเปื้อน
นอกจากนี้ ตะหลิวยังสามารถแบ่งได้อีก 3 ประเภท ตามลักษณะของส่วนหัว คือ ตะหลิวหัวแบน ตะหลิวหัวโปร่ง และตะหลิวตักปลา
ในการเลือกซื้อตะหลิวสำหรับใช้งานในครัวเรือนมีปัจจัยที่พึงพิจารณา ดังนี้
วัสดุของตะหลิวแต่ละประเภทมีข้อดี-ข้อเสียแตกต่างกันออกไป เช่น ตะหลิวไม้มีความสวยงาม น้ำหนักพอดี และไม่ทำให้ผิวกระทะมีรอยขีดข่วน แต่จำเป็นต้องเช็ดให้แห้งหลังล้างทำความสะอาด และไม่เก็บไว้ในที่อับชื้น เพราะตะหลิวไม้สามารถเป็นเชื้อราได้ง่าย
ควรเลือกตะหลิวที่มีขนาดพอดีกับตนเองและกระทะ โดยแนะนำให้เลือกตะหลิวหัวแบนสำหรับการผัด และเลือกตะหลิวหัวโปร่งสำหรับการทอด เพราะตะหลิวหัวโปร่งจะสามารถสะเด็ดน้ำมันได้ดีกว่า
ตะหลิวที่ดีควรทำจากวัสดุคุณภาพ ปราศจากสารอันตรายปนเปื้อน ทนต่อความร้อน และผ่านกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐาน
ผู้จัดจำหน่ายที่น่าเชื่อถือ เช่น Oceantableware มีสินค้าให้เลือกหลากหลายจากแบรนด์ผู้ผลิตชั้นนำ ซึ่งได้รับการรับรองมาตรฐานระดับสากล